ศูนย์ศัลยกรรมจมูกแห่งประเทศไทย

แก้จมูกต้องพักจมูกไหม

การศัลยกรรมเสริมจมูก เป็นการผ่าตัดตกแต่งเพื่อปรับรูปทรงจมูกให้สวยงามขึ้น ซึ่งอาจใช้ซิลิโคนเป็นวัสดุเสริมจมูก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของคนไข้ ในกรณีที่ต้องการถอดซิลิโคนเพื่อพักจมูก มักเป็นกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เช่น จมูกอักเสบติดเชื้อ หรือซิลิโคนทะลุ ในกรณีเหล่านี้ แพทย์จะแนะนำให้ถอดซิลิโคนออกก่อนเพื่อรักษาภาวะแทรกซ้อนให้หายก่อน จากนั้นจึงพิจารณาเสริมซิลิโคนใหม่อีกครั้ง บางเคสคนไข้อาจกลับไปเสริมจมูกด้วยซิลิโคนไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ

สาเหตุที่ต้องถอดซิลิโคนเพื่อพักจมูก

สาเหตุที่ต้องถอดซิลิโคนเพื่อพักจมูก

  • จมูกมีการอักเสบติดเชื้อ

การอักเสบติดเชื้อหลังเสริมจมูกเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่เกิดจากการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดที่ไม่ดี บางรายไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หรือเกิดการติดเชื้อจากที่แพ้ยา รวมไปถึงสิ่งต่าง ๆ การที่เลือดออกมากเกินไปหลังจากการผ่าตัด หรือการใช้ยา และเครื่องมือที่ไม่สะอาดในกระบวนการทำศัลยกรรม เป็นต้น อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวด บวม แดง ร้อน บางเคสรุนแรงถึงมีหนองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด 

ในกรณีเกิดการติดเชื้อหลังเสริมจมูกต้องถอดซิลิโคนโดยด่วน หากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงจมูกเน่าได้ค่ะ และหากจะเสริมจมูกใหม่อีกครั้ง จำเป็นต้องพักจมูกเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ไม่สามารถแก้จมูกใหม่ได้ทันที เนื่องจากมีการติดเชื้ออยู่ หากเสริมเข้าไปในทันทีจะทำให้อาการติดเชื้อรุนแรงขึ้นค่ะ

  • ซิลิโคนทะลุ

ซิลิโคนทะลุเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้ในการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เกิดจากเนื้อเยื่อบริเวณที่ใส่ซิลิโคนบางลงจนซิลิโคนทะลุออกมา ซิลิโคนทะลุเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ซิลิโคนมีขนาดใหญ่เกินไป ซิลิโคนมีรูปร่างไม่เหมาะสม เทคนิคการผ่าตัดไม่ดี ผู้ป่วยมีประวัติการติดเชื้อ สาเหตุเหล่านี้ล้วนมีโอกาสจะทำให้ซิลิโคนทะลุได้

กรณีที่ซิลิโคนทะลุ จะต้องถอดซิลิโคนออกอย่างเดียวเท่านั้น หากจะทำการเสริมจมูกใหม่ต้องรอให้แผลหายก่อนโดยระยะเวลาพักฟื้น 3 – 6 เดือน จึงจะสามารถเสริมจมูกใหม่ได้ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการแก้จมูกในครั้งถัดไป

เทคนิคการแก้จมูก

เทคนิคการแก้จมูก

การแก้จมูก (Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างจมูกให้สวยงาม เหมาะสมกับรูปหน้า เทคนิคการแก้จมูกมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัญหาจมูก และความต้องการของคนไข้ โดยทั่วไปแล้ว เทคนิคการแก้จมูกสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นวิธีการศัลยกรรมจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ภายในรูจมูก ทำให้ไม่เกิดรอยแผลเป็นบนใบหน้า การผ่าตัดแบบปิดมักใช้เวลาน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า อย่างไรก็ดี การผ่าตัดแบบปิดมีข้อจำกัด ไม่สามารถปรับแต่งรูปทรงจมูกได้ละเอียดเท่าการผ่าตัดแบบเปิด ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับการแก้จมูกในเคสที่มีอาการรุนแรง
  1. การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในของจมูกได้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของจมูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับการแก้จมูกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเสริมจมูกไร้ซิลิโคน และลดความเสี่ยงในการเกิดซิลิโคนทะลุได้ แถมยังอยู่ได้อย่างถาวรโดยไม่ต้องถอด เพื่อเปลี่ยนซิลิโคน

แก้จมูกที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซดียังไง

ในปัจจุบันสถานพยาบาลที่ทำศัลยกรรมจมูกอยู่มากมาย การเลือกสถานพยาบาลในการแก้จมูกควรคำนึงถึงผลลัพธ์ และความปลอดภัยเป็นหลัก ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านการศัลยกรรมจมูกโดยเฉพาะ พร้อมศึกษาข้อมูลเคสรีวิวผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ถือว่าเป็นศูนย์รวมการบริการด้านความงามแบบครบวงจร มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์  โดยบริการคนไข้ทุกขั้นตอนภายใต้มาตรฐานโรงพยาบาล ทั้งสะอาด ปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมเนรมิตรจมูกใหม่ให้คุณสวยอย่างมั่นใจ ไม่ต้องแก้ไขซ้ำซาก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save