“จมูก” นับว่าเป็นจุดที่อยู่กึ่งกลางใบหน้าของเรา ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายหากมีรูปทรงจมูกที่สวย รับเข้ากับใบหน้า ก็จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ เพิ่มแรงดึงดูดน่าค้นหาไม่น้อยเลยถูกไหมคะ ส่งผลให้หลายคนที่ไม่หน้าดูไม่มีมิติ หน้าไม่คม ดั้งไม่มี รวมถึงคนที่มีรูปทรงจมูกไม่สวย ต่างก็หันมาสนใจเพิ่มความมั่นใจโดยการ เสริมจมูกซิลิโคน กันค่อนข้างมาก 

เนื่องจากในยุคปัจจุบันการศัลยกรรมไม่ได้น่ากลัวเท่าเมื่อก่อน ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน โดยเน้นในเรื่องของความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงในเรื่องของผลลัพธ์หลังทำที่คนไข้พึงพอใจอีกด้วยค่ะ อาจเป็นเหตุให้สาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ หลายคนถูกเพื่อน ๆ ทักว่าหลังทำจมูกแล้วหน้าเปลี่ยน ดูโดดเด่นขึ้น หน้าคมขึ้น ชวนมองมากขึ้น ล้วนแล้วเป็นคำพูดที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ทั้งนั้นเลยค่ะ ในบทความจะพาไปรู้จัก การเสริมจมูกซิลิโคน กันค่ะ

เสริมจมูกซิลิโคน คืออะไร

การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความโด่ง โดดเด่นของจมูก ช่วยให้ใบหน้าของเราเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ดังนั้นการเลือกซิลิโคนสำหรับเสริมจมูกจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูกนั้นมีหลากหลายรูปแบบ หลายประเภท วัสดุที่นำมาใช้ก็ควรเป็น Medical Grade Silicone เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในแก่คนไข้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้ละเอียด รอบครอบก่อนนะคะ

ใครบ้างที่เหมาะการ เสริมจมูกซิลิโคน

• สาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ ที่มีรูปทรงจมูกสวยอยู่แล้ว หรือคนที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้วนั่นเองค่ะ

• คนที่จมูกมีความยาวกำลังดี ไม่สั้นมากเกินไป

• คนที่มีฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป และมีเนื้อบริเวณจมูกพอสมควร ไม่น้อยจนเกินไป

• ฐานจมูกไม่เบี้ยว ปัญหาจมูกไม่เยอะ

ประเภทเนื้อจมูกมีกี่แบบไปดูกัน

โดยทั่วไปแล้วการทำจมูกได้โด่งมาก โด่งน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อบริเวณจมูกของคนไข้นะคะ ซึ่งเนื้อบริเวณจมูกสามารถแบ่งออกได้สองประเภทหลัก ๆ ได้แก่ เนื้อจมูกน้อย และเนื้อจมูกมากนั่นเองค่ะ
ซึ่งสำหรับคนไข้ที่มีเนื้อบริเวณจมูกมาก ก็สามารถเสริมจมูกได้ค่อนข้างโด่ง แต่ถ้าหากต้องการความโด่งด้วย เรียวสวยด้วยก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่จะเป็นการปรับโครงสร้างของจมูกคนไข้นั่นเอง

ในส่วนของคนที่มีเนื้อจมูกค่อนข้างน้อยนั้นก็สามารถเสริมจมูกได้เช่นกันค่ะ แต่อาจจะได้ทรงจมูกที่ไม่สูงมาก เนื่องจากจะเสี่ยงต่อการทะลุของซิลิโคนนั่นเอง ทั้งนี้สามารถใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูกร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความโด่ง ความยาวของจมูกคนไข้ได้อีกด้วยค่ะ แต่อาจจะได้ไม่เท่ากับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะนะคะ

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง ควรให้แพทย์ทำการประเมินเนื้อบริเวณจมูกก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาหลังผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทะลุของซิลิโคน หรือจมูกสูงมากจนฝืนเนื้อบริเวณจมูกเกินไปนั่นเองค่ะ

วัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการ เสริมจมูกซิลิโคน

ซิลิโคน

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าซิลิโคนที่เหมาะสำหรับเสริมจมูกนั้น ควรเป็นวัสดุที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้ทางการแพทย์ โดยจะเน้นในเรื่องของความปลอดภัย และมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อร่างกายของเราน้อยที่สุด เนื่องจากหากร่างกายของเรานั้นสามารถรับ และห่อหุ้มแท่งซิลิโคนให้ยึดติดกับเนื้อเยื่อได้ดี ซิลิโคนก็จะสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตเลยค่ะ โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่หรือแก้ทรงใหม่เลยค่ะ

ทั้งนี้ซิลิโคนที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมจมูกนั้น จะมีด้วยกันสองแบบค่ะ ก็คือ ซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา และซิลิโคนมาตรฐานพิเศษเลยค่ะ ซึ่งซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา จะมีลักษณะค่อนข้างแข็งเลยก็ว่าได้ สำหรับคนไข้ที่ต้องการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนชนิดนี้ จะต้องมีเนื้อจมูกหนานะคะ เพราะจะช่วยลดปัญหาการมองเห็นขอบสันซิลิโคนที่ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ ในส่วนซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ เนื้อของซิลิโคนจะนิ่ม เนียน แถมยังมีความยืดหยุ่นได้ดีเป็นพิเศษอีกด้วยนะ ซึ่งชนิดนี้จะเหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกบาง เนื้อน้อย เพราะจะเพิ่มความเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นเป็นแท่งชัดเจน

สาเหตุที่ทางการแพทย์ออกแบบซิลิโคนมาให้มีสองชนิดแบบนี้ ก็เพราะว่าโครงสร้างจมูกของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน หากต้องการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อประเมินความเหมาะสมนั่นเองค่ะ

กระดูกอ่อน

เป็นการปรับโครงสร้างของจมูกโดยการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายคนไข้ เพื่อลดโอกาสการทะลุของปลายจมูกในอนาคตนั่นเองค่ะ วัสดุที่แพทย์นิยมนำมาใช้มีหลากหลายนะคะ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกอ่อนหลังใบหู, กระดูกอ่อนซี่โครง และกระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูกนั่นเองค่ะ

ดังนั้นการตกแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนจึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงนะคะ รวมถึงร่างกายจะไม่มีการต่อต้านเลยค่ะ เนื่องจากเป็นการใช้เนื้อเยื่อของคนไข้เอง ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าแทบจะไม่มีโอกาสที่ร่างกายจะแพ้ได้เลยค่ะ เมื่อระยะเวลาผ่านไปร่างกายจะสมานชิ้นส่วนกระดูกอ่อนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับจมูกของคนไข้เองค่ะ ส่งผลให้แลดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ยังมีการเสริมจมูกด้วยเทคนิคใหม่ นั่นคือ “เทคนิคการเสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน” หลาย ๆ คนอาจไม่คุ้นหูกับเทคนิคนี้เท่าการเสริมด้วยซิลิโคนถูกไหมคะ แถมเทคนิคนี้ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับซิลิโคนอีกด้วยนะ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะว่าเทคนิคนี้ดียังไง ทำไมถึงเริ่มเป็นที่นิยมกัน

โดยเทคนิคการเสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคนนี้ จะใช้กระดูกอ่อนซี่โครงมาเป็นวัสดุในการเสริมจมูกแทนการใช้ซิลิโคนนั่นเองค่ะ ดังนั้นจะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของปลายจมูกให้พุ่ง, ยาว, โค้ง รับกับใบหน้าของคนไข้ได้ดีกว่าแถมยังไม่ต้องกังวลในเรื่องของปลายบาง หรือปลายทะลุอีกด้วยนะ อ้อ ที่สำคัญยังยุบบวมเร็วกว่าการใช้ซิลิโคนอีกด้วย อย่างไรก็ตามการเสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีองค์ความรู้ รวมถึงประสบการณ์ที่สูง เนื่องจากเทคนิคนี้มีรายละเอียดในการทำหัตถการค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องทำการผ่าตัดเพื่อนำกระดูกอ่อนซี่โครงออกมา แล้วตกแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ หลังจากนั้นจึงจัดวางไว้บริเวณจมูกนั่นเองค่ะ

ซิลิโคนเสริมจมูกรูปทรงต่าง ๆ

รูปทรงจมูกมีหลากหลาย เช่นเดียวกับซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูก ก็มีหลากหลายเช่นเดียวกันค่ะ ในหัวข้อนี้จะพาไปทำความรู้จักรูปทรงซิลิโคนจมูกในแบบต่าง ๆ เพื่อไขข้อสงสัยให้กับสาว ๆ หลายคนกันค่ะ

• Mantis Silicone หรือซิลิโคนสำเร็จรูปที่ออกแบบให้มีปีกทั้งสองข้างสำหรับครอบสันจมูกไว้เพื่อช่วยลดปัญหาจมูกเบี้ยว, เอียง และทะลุ

• Barbie Silicone ทรงนี้จะมีสันค่อนข้างกว้าง มีสโลป แต่ไม่โด่งมากนะคะ ทรงนี้จะเหมาะกับคนที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว แต่แค่ต้องการเพิ่มความโด่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ

• Brown Silicone ซิลิโคนทรงนี้จะคล้ายกับทรงตั๊กแตนผสมกับทรงบาร์บี้เลยค่ะ เนื้อฐานบริเวณสันจมูกจะค่อนข้างหนา เหมาะกับคนที่มีจมูกแบนต้องการเพิ่มความโด่งนั่นเองค่ะ

ในส่วนของการเสริมจมูกให้ได้ทรงจมูกที่เหมาะสม รับเข้าใบหน้าของตัวคนไข้เองนั้น จำเป็นที่จะต้องให้แพทย์ประเมิน และพิจารณาแบบแท่งซิลิโคนหรือแบบเหลานะคะ เพื่อให้ได้ทรงที่ดูสวยเป็นธรรมชาติตรงตามความต้องการของคนไข้นั่นเองค่ะ

เทคนิคที่นิยมใช้เสริมจมูกซิลิโคนมีกี่แบบอะไรบ้าง

ด้วยเทคนิคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นในเรื่องของผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และความปลอดภัยของตัวคนไข้เองเป็นหลัก ส่งผลให้การศัลยกรรมจมูกในยุคปัจจุบัน เป็นที่นิยมของสาว ๆ หนุ่ม ๆ ในยุคนี้อย่างมาก

โดยก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด คนไข้จะได้รับการออกแบบ รวมประเมินรูปทรงจมูก เนื้อจมูกที่เหมาะสมกับใบหน้าโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเทคนิคที่เหมาะสมในการแก้ปัญหารูปทรงจมูกต่าง ๆ ที่เป็นปัญหากวนใจอีกด้วย

เทคนิคที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีทั้งหมดสองเทคนิคด้วยกันค่ะ เทคนิคที่ว่านั้นก็คือ เสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) และ เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) นั่นเองค่ะ ซึ่งทั้งสองเทคนิคนี้ก็จะมีข้อดี และข้อควรระวังแตกต่างกันออกไปนะคะ เดี๋ยวจะพาไปรู้จักการเสริมจมูกทั้งสองเทคนิคนี้ผ่านบทความนี้กันเลยค่ะ ไปชมพร้อมๆกันเลย

เสริมจมูกแบบปิด(Close Rhinoplasty)คืออะไร

การเสริมจมูกด้วยเทคนิคปิด แพทย์จะใช้ระยะเวลาในการทำหัตถการไม่นาน แถมยังง่ายต่อการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดอีกด้วยค่ะ เนื่องจากเทคนิคนี้เป็นการเปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณรูจมูก แพทย์อาจเปิดเพียงข้างเดียว หรือ สองข้าง ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์ เพื่อทำการเสริมจมูกโดยการสอดแท่งซิลิโคนเข้าไปบริเวณสันจมูกยาวไปจนถึงปลายจมูกของคนไข้ หรือแพทย์อาจใช้เทคนิคอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น การรองปลายด้วยวัสดุต่าง ๆ, การเย็บอินเตอร์โดม, ตอกฐาน หรือการตะไบฮัมพ์ เป็นต้น เพื่อให้คนไข้มีรูปทรงจมูกที่สวยงาม รับกับใบหน้า เพื่อความดึงดูด โดดเด่นในแบบคุณ

เสริมจมูกแบบปิด(Close Rhinoplasty)เหมาะกับใคร

ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า การเสริมจมูกด้วยเทคนิคปิด (Close Rhinoplasty) เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีพื้นฐานทรงจมูกเดิมค่อนข้างดีอยู่แล้ว หรือ คนที่มีปัญหาจมูกไม่มาก แต่ต้องการเพิ่มความโด่ง ความคมชัดของสันจมูกมากขึ้นเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าคนไข้ที่มีปัญหาในเรื่องของโครงสร้างจมูก ไม่ว่าจะเป็น ฐานจมูกกว้าง, เบี้ยว, เอียง, คด และคนที่มีเนื้อบริเวณจมูกค่อนข้างมาก หรือจมูกรูปชมพู่ ต้องการจะปรับจมูกให้ดูเรียวจะไม่สามารถเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้ได้ เนื่องจากแพทย์จะไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมดนั่นเองค่ะ

เสริมจมูกแบบเปิด(Open Rhinoplasty)คืออะไร

การศัลยกรรมผ่าตัดจมูกด้วยเทคนิคเปิด (Open Rhinoplasty) แพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก และรูจมูกทั้งสองข้างเพื่อให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของกระดูกจมูก กระดูกอ่อนจมูก กระดูกอ่อนปลายจมมูก และผนังกั้นจมูก โดยเทคนิคนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกได้มากกว่า แถมยังสามารถแก้ไขได้ตรงจุด และแม่นยำด้วย หรือจะเข้าใจง่าย ๆ ว่าเทคนิคนี้ นับว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยปรับแก้ไขโครงสร้างจมูกโดยตรงนั้นเองค่ะ

เสริมจมูกแบบเปิด(Open Rhinoplasty)เหมาะกับใคร

• เนื่องจากการศัลยกรรมจมูกด้วยเทคนิคเปิด(Open Rhinoplasty) เป็นการปรับแก้ไขโครงสร้างภายในจมูกจึงสามารถปรับฐานจมูกที่เอียงแต่กำเนิด หรือฐานจมูกที่เอียงจากอุบัติเหตุ, ฐานจมูกคด และคนไข้ที่มีจมูกผิดรูปให้กลับมาตรง และมีรูปทรงที่สวยงาม เพิ่มความโดดเด่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น

• สำหรับใครที่มีฮัมพ์บริเวณสันจมูกขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับจมูกให้มีทรงสวยสโลปได้ด้วยเทคนิคนี้เลยค่ะ

• นอกจากนี้ยังสามาถเพิ่มความเรียวให้ปลายจมูก เหมาะสำหรับคนที่มีปลายจมูกขนาดใหญ่ ปลายจมูกกลม เนื้อปลายจมูกหนา

• สำหรับคนไข้ที่ต้องการเพิ่มความยาวของจมูก แต่อยากให้ปลายจมูกยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติควบคู่ไปกับความปลอดภัย

• คนไข้ที่ปลายจมูกงุ้มเหมือนจมูกแม่มด ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า ลักษณะจมูกแบบนี้จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูแข็ง ไร้ความอ่อนหวาน เทคนิคนี้ก็สามารถช่วยให้ปลายจมูกยกขึ้น และดูพุ่งขึ้นได้นั่นเองค่ะ

• สำหรับคนไข้ที่ผ่านการแก้จมูกมาหลายครั้งแล้ว ส่งผลให้รูจมูกมีขนาดเล็ก แถมมีผังผืดในจมูกค่อนข้างเยอะ การแก้จมูกด้วยเทคนิคนี้ก็ตอบโจทย์ไม่น้อยเลยค่ะ

ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก

ขั้นตอนการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนด้วยเทคนิคปิด (Close Rhinoplasty)

• ด้วยเทคนิคการเสริมจมูกแบบปิดนี้ เป็นเทคนิคที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน จึงใช้เวลาในการทำหัตถการไม่นาน โดยแพทย์จะเริ่มจากการฉีดยาชาบริเวณรอบจมูก เพื่อลดอาการเจ็บปวดขณะเข้ารับการผ่าตัด

• หลังจากนั้นแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกทั้งสองข้าง หรือ ข้างเดียวตามความถนัดของแพทย์ แผลที่เปิดนั้นจะมีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้นค่ะ

• เมื่อเปิดแผลบริเวณขอบจมูกเรียบร้อยแล้ว ก็จะใส่แท่งซิลิโคนที่เหลาขึ้นรูปให้เหมาะสมกับโครงสร้างจมูก และใบหน้าของคนไข้ โดยแพทย์จะวางซิลิโคนบริเวณสันจมูกใต้เยื้อหุ้มกระดูกจมูก เพื่อป้องกันการเคลื่อน หรือไหลของซิลิโคนที่ใส่เข้าไป

• เมื่อจัดวางซิลิโคนเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำการเย็บปิดแผลอย่างปราณีต แล้วปิดด้วยพลาสเตอร์ หรือเข้าเฝือกจมูกเพื่อป้องกันตัวจมูก และลดอาการบวม

• หลังเข้ารับการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนไข้สามารถเดินทางกลับบ้านได้ แต่คนไข้ควรดูแลตัวเองและรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ

ขั้นตอนการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนด้วยเทคนิคเปิด (Open Rhinoplasty)

• ด้วยเทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคที่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ และความชำนาญของศัลยแพทย์อย่างมาก เนื่องจากเทคนิคนี้มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก คนไข้จะต้องดมยาสลบ ซึ่งจะกระทำภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์

• หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มทำการเปิดแผลบริเวณฐานจมูก รวมไปถึงขอบรูจมูกทั้งสองข้างของคนไข้ด้วย เพื่อแยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก ดังนั้นแพทย์จะสามารถมองเห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมดของคนไข้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเทคนิคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมดก็จะสามารถปรับแต่งแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น การตัดแต่งกระดูกจมูกเดิมที่คดเบี้ยว การตะไบกระดูกสันจมูกนูน (ฮัมพ์) สำหรับคนไข้ที่มีจมูกสั้น ก็สามารถยืดผนังกั้นจมูกเพื่อเพิ่มความยาวให้แก่ปลายจมูกได้อีกด้วยนะคะ

• หลังจากที่แพทย์ทำการปรับแต่งโครงสร้างจมูกของคนไข้เรียบร้อยแล้ว แพทย์ก็จะเย็บแผลด้วยความปราณีต

• หลังจากที่กระบวนการขั้นตอนการผ่าตัดเสร็จสิ้น คนไข้จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ เพื่อสังเกตุอาการต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงจะสามารถกลับบ้านได้ หลังจากที่คนไข้กลับบ้าน คนไข้ต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงทานยาตามคำสั่งของแพทย์ให้หมดด้วยนะคะ

เสริมจมูกซิลิโคน ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชดีอย่างไร

สำหรับสาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ ที่สนใจอยากเสริมจมูกด้วยซิลิโคนไม่ว่าจะเป็นเทคนิคเปิด หรือ เทคนิคปิด ต้องการเพิ่มความโด่ง โดดเด่น มีมิติให้กับใบหน้า และที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการเข้าสังคมอีกด้วย แต่หลายคนอาจมีสารพัดข้อสงสัยไม่ว่าจะเป็น “เสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่ไหนดี, ราคาเท่าไหร่, ราคาแพงไหม, เลือกหมอท่านไหนดีถึงจะปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของคนไข้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงวิธีการเลือกสถานพยาบาลที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง เพราะความสวย ความมั่นใจ ไม่ควรฝากไว้กับโชคชะตาที่มองไม่เห็นนะคะ เพราะโอกาสผิดพลาด ต้องกลับมาแก้ไขนั้นมีอย่างแน่นอนค่ะ วันนี้ในหัวข้อนี้ จะเล่าให้ฟัง เพื่อไขข้อสงสัยต่าง ๆ ที่หลายคนมีคำถามมากมายกันค่ะ

• ความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล

โรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับมาตรฐาน มีความพร้อมของทีมแพทย์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ รวมถึงห้องผ่าตัดทีไ่ด้รับมาตารฐานค่ะ

• ความชำนาญของแพทย์

อย่างแรกที่ต้องพิจารณาเลยคือ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผลงานของแพทย์ ซึ่งสามารถดูได้จากรีวิวของผู้เข้ารับบริการจริง, ประสบการณ์ของแพทย์, ความน่าเชื่อถือ, ใบประกอบวิชาชีพ และการให้คำปรึกษาของแพทย์ ซึ่งข้อดีของการปรึกษาแพทย์โดยตรง ทำให้เรารู้วิธีการรักษา ความน่าเชื่อถือของแพทย์ แพทย์เฉพาะทางจะสามารถอธิบาย ให้คำแนะนำได้อย่างละเอียดและถูกต้องค่ะ

• ห้องผ่าตัดเครื่องมือที่ได้รับมาตรฐาน

เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ของเรามีความปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายระหว่างผ่าตัด จำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับมาตารฐาของโรงพยาบาลให้ดี รวมไปถึงเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อด้วยนะคะ

• ราคาและโปรโมชั่นต่างๆ

การเลือกเสริมจมูกด้วยซิลิโคน กับคลีนิคทั่วไปเพราะราคาถูกนั้น อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ หรือแย่กว่าที่คาดหวังไว้ เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมามากมาย ดังนั้นก่อนเราจะตัดสินใจว่าจะเสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่ไหนดี ควรสอบถามข้อมูล ราคา โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน รวมไปถึงตรวจเช็ครีวิวจากคนไข้จริงให้ดี เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงฝีมือแพทย์ และผลลัพธ์ที่เราควรได้รับอีกด้วยค่ะ

โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเป็นชั้นนำที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ได้รับมาตรฐาน พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อ นำทีมโดยแพทย์เฉพาะทาง และให้คำปรึกษาปัญหาแบบครบวงจร มีเคสรีวิวจากลูกค้าจริงมากมาย คนไข้สามารถมั่นใจเลยว่าจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด

สำหรับสาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ คนไหนที่สนใจอยากเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตนเอง หลังจากที่เลือกสถานพยาบาลสำหรับทำหัตถการที่ถูกใจแล้ว ได้รูปทรงจมูกที่ต้องการแล้ว มาดูกันต่อเลยนะคะว่า ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้นมีอะไรบ้าง เพราะหากคนไข้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นขณะเข้ารับการผ่าตัดลงได้เยอะเลยค่ะ ดังนั้นในหัวข้อนี้ จะพามาดูนะคะว่า การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

• อันดับแรกเลยคนไข้ต้องแจ้งประวัติโรคประจำตัว การแพ้ยา แพ้อาหาร ให้แพทย์ทราบโดยละเอียด หากมียาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยค่ะ

• งดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วัน หากจำเป็นต้องวางยาสลบในการผ่าตัดควรงดรับประทานอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด 8 ชั่วโมงค่ะ

• ไม่สวมเครื่องประดับต่าง ๆ ขณะเข้ารับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น สร้อย แหวน นาฬิกา ต่างหู รวมไปถึงงดทำเล็บด้วยนะคะ คนไข้ต้องเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดใส่ง่าย อาจจะเป็นเสื้อยืดคอกว้าง หรือ เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดการเสียดสี สัมผัสแผลหลังเข้ารับการผ่าตัดนั่นเองค่ะ

• งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ และงดสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วัน

หลังจากที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนคงเข้าใจขั้นตอน ของการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดกันดีแล้วใช่ไหมคะ จะเห็นได้เลยว่าการเตรียมตัวนั้นไม่ยากเลย แถมยังมีประโยชน์อีกด้วยนะคะ อ้อ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า หากปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดแล้ว นอกจากจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่เกิดในห้องผ่าตัดแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจตามมาอีกด้วยค่ะ

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนับว่าเป็นส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหากเรามีการดูแลตัวเองดี โอกาสที่แผลจะสมานตัวเร็ว ลดระยะเวลาในการพักฟื้นก็มากขึ้นไปด้วย แถมยังช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากที่เสริมจมูกไปแล้วอีกด้วย

ในส่วนของการดูแลตัวเองนั้น สาว ๆ หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ลำบาก แต่จริง ๆ แล้ววิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้องนั้นไม่ยากเลยค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

• หลังจากเข้ารับการผ่าตัด ในช่วง 3 วันแรก แนะนำให้ใช้คูลแพ็ควางบนผ้าสะอาดประคบบริเวณหน้าผาก, หน้าแก้ม และคาง อย่างเบามือนะคะ เพราะการประคบเย็นช่วยให้เลือดหยุดไหล ยุบบวมเร็วขึ้นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แต่ต้องเว้นบริเวณสันจมูกนะคะ อ้อ ในช่วงนี้งดล้างหน้าก่อนนะคะ เพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ หลังจากนั้นจึงจะสามารถล้างหน้าได้ตามปกติเลยค่ะ

• หลังจาก 3 วันไปแล้ว แผลจะเริ่มสมานกันค่ะ ช่วงนี้แนะนำให้ประคบอุ่นอย่างเบามือนะคะ เพื่อลดรอยเขียวช้ำ ม่วง

• หากรู้สึกคันบริเวณจมูก แนะนำว่าให้ใช้คัตตอนบัดชุบน้ำเกลือสำหรับล้างแผลเช็ดอย่างเบามือนะคะ พยายามไม่แคะ ไม่แกะ หรือเกาบริเวณแผลนะคะ หรือลดการสัมผัสแผลให้มากที่สุดนั่นเอง

• หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง นอนคว่ำ โดยใช้หมอนรองคอยกศรีษะให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้เลือดคลั่งภายในโพรงจมูก

• หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีผู้คนแออัด ฝุ่นควัน ฝุ่นละออง เพื่อลดอาการไอ จาม

• ในส่วนของการทำความสะอาดแผล แนะนำว่าให้ใช้คัตตอนบัดชุบน้ำเกลือสำหรับทำความสะอาดแผล เช็ดอย่างเบามือบริเวณปากแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็นเลยนะคะ กรณีที่คนไข้อาบน้ำ แล้วน้ำกระเด็นเข้าแผลทำให้แผลเปียก ให้ใช้คัตตอนบัดซับเบา ๆ ให้แผลแห้งนะคะ

• ในส่วนของอาหาร ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อน ๆ งดอาหารหมัก ดอง อาหารทะเล หรืออาหารรสจัด รวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์ด้วยนะคะ เนื่องจากอาหาร และเครื่องดื่มเหล่านี้มีผลทำให้แผลของคนไข้หายช้า ในกรณีร้ายแรงอาจเกิดการติดเชื้อได้ค่ะ อ้อ อย่าลืมรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งด้วยนะคะ

• งดสูบบุหรี่ในช่วง 30 วัน เนื่องจากจะมีผลต่อการสมานแผลหลังการผ่าตัดค่ะ

• หากคนไข้พบว่ามีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วนเลยนะคะ

ภาวะแทรกซ้อนหลังเข้ารับการผ่าตัด

• ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดที่อาจเกิดขึ้นได้ทันทีหลังจากเข้ารับการผ่าตัด คงหนีไม่พ้นเรื่องของการที่มีเลือดแดงซึม หรือจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง หลังเข้ารับการผ่าตัดนั่นเองค่ะ

• หลังจากนั้น บริเวณใต้ตาจะเริ่มบวมช้ำ ใบหน้าบวมขึ้นได้

• ในส่วนของการยุบบวมของจมูกทั้งสองข้างอาจไม่เท่ากัน ทำให้ดูเหมือนจมูกเบี้ยว เอียง ซึ่งสร้างความกังวลใจให้แก่คนไข้อย่างมาก แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปเอง

• บริเวณหัวตาจะดูบวม ทำให้รู้สึกว่าสันจมูกดูสูงเกินไป ทั้งนี้คนไข้ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะอาการบวมดังกล่าวก็จะค่อย ๆ ยุบลงเช่นกันค่ะ

ซิลิโคนสำหรับเสริมจมูกทำมาจากอะไร ไปดูกันเลย

หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า แล้วซิลิโคนที่นำมาใช้ในการเสริมจมูกของเรานั้นทำมาจากอะไร ต้องเป็นเกรดทางการแพทย์หรือเปล่า ต้องขอบอกตรงนี้เลยนะคะว่า ซิลิโคนที่นำมาใช้จำเป็นจะต้องเป็นซิลิโคนเกรดการแพทย์เท่านั้นนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง ในส่วนของวัสดุซิลิโคนที่นิยมนำมาใช้ในปัจจุบันก็มีดังนี้เลยค่ะ

• ซิลิโคนอเมริกา เนื้อซิลิโคนมีความเนียนละเอียด สีขาว นุ่ม นับว่าเป็นซิลิโคนแท่งมาตรฐานพิเศษ มีความปลอดภัยสูง คุณภาพดี มีความบริสุทธิ์ 100 % เลยค่ะ

• ซิลิโคนเกาหลี จะเป็นซิลิโคนที่นิ่มมาก และมีความยืดหยุ่นสูง มีสีเหลือง สีน้ำตาลแดง เป็นซิลิโคนสำเร็จรูปมาตรฐานพิเศษ

• ซิลิโคนญี่ปุ่น วัสดุนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น แต่ทำการผลิตที่ไทย มีความแข็งปานกลาง เป็นซิลิโคนแท่งมาตรฐานธรรมดา มีสีเหลืองค่ะ

รูปแบบซิลิโคนสำหรับทำจมูก

อย่างที่กล่าวมาในหัวข้อที่แล้วว่า ซิลิโคนสำหรับเสริมจมูกที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ต้องเป็น Medical Grade Silicone เท่านั้นนะคะ เพราะเป็นซิลิโคนที่ผลิตขึ้นมาใช้ทางการแพทย์นั่นเองค่ะ โดยจะมีด้วยกันสองแบบนะคะ ก็คือแบบสำเร็จรูป ที่พร้อมใส่เข้าไปในจมูกของคนไข้เลย และอีกแบบคือแบบแท่ง ซึ่งแบบแท่งแพทย์จะต้องนำมาเหลาขึ้นรูปก่อน จึงจะใส่เข้าไปในจมูกของคนไข้ได้ ซึ่งแบบนี้ต้องอาศัยความชำนาญของศัลยแพทย์อย่างมากค่ะ

ในส่วนของซิลิโคนแบบเหลาเองนั้น สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 ชนิดด้วยกัน ตามลักษณะความอ่อน แข็ง ของตัวซิลิโคนเลย ได้แก่ แข็ง ปานกลาง นุ่ม และนุ่มมาก นั่นเองค่ะ

เลือกซิลิโคนอย่างไรให้เข้ากับรูปทรงหน้า

อย่างที่ทราบกันดีว่ารูปทรงจมูกมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น จมูกทรงบาร์บี้, แมนทิส, ทรงเกาหลี, ทรงเจ้าหญิง แต่ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า รูปทรงจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คงหนีไม่พ้น “ทรงหยดน้ำ” นั่นเองค่ะ ซึ่งทรงนี้บริเวณปลายจมูกจะยาว ๆ คล้ายหยดน้ำ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีรูปจมูกยาว หรือคนที่มีปลายจมูกมีเนื้อพอสมควร อ้ออีกทรงที่ครองใจสาว ๆ หลายคนมาอย่างยาวนานก็คือ “ทรงสโลปปลายพุ่ง” ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า ทรงนี้จะช่วยให้จมูกของคนไข้ดูยาวขึ้น ใบหน้าดูสวย หวาน ขึ้น แถมยังเพิ่มความเยาว์วัยให้ใบหน้าด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างจมูก และใบหน้าของแต่ละคนด้วยนะคะ

ซิลิโคนจมูกลอยแก้ไขอย่างไร

“ซิลิโคนลอย” หลายคนอาจเคยได้ยิน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าคืออะไร ในบทความนี้จะขอเล่าให้ฟังว่า ปัญหานี้เกิดจากอะไร ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า หลังจากที่คนไข้เสริมจมูกด้วยซิลิโคนไปแล้วเรียบร้อย กลับพบว่าซิลิโคนบริเวณหัวตาขยับได้ นั่นมีสาเหตุมาจาก

• การที่แพทย์วางซิลิโคนผิดชั้น ไม่ได้วางอยู่ภายใต้ชั้นเนื้อเยื่อ ซึ่งจริง ๆ แล้ว การวางซิลิโคนที่ถูกต้องต้องวางให้อยู่ติดกับชั้นโครงสร้างของจมูกของคนไข้นั่นเองค่ะ หรือหากแพทย์ทำการวางซิลิโคนถูกชั้นแต่คนไข้มีเนื้อหุ้มกระดูกบางก็นับว่าเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ซิลิโคนลอยได้เช่นกันค่ะ

• อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ซิลิโคนลอย ก็คือการกระทบกระเทือน จากการบิดจมูกแรง ๆ หรือบางคนที่ชอบบิดจมูกเล่นนั่นเองค่ะ

ซึ่งซิลิโคนลอยสามารถแก้ไขได้นะคะ

• ในส่วนของการแก้ไขปัญหาซิลิโคนลอยนั้น จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาซิลิโคนเก่าออก จากนั้นจึงจะใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปให้ถูกชั้นเนื้อเยื่อ เพื่อป้องกันซิลิโคนเคลื่อน

• สำหรับคนที่มีฮัมพ์จมูกค่อนข้างสูง สามารถแก้ไขได้ด้วยการตะไบฮัมพ์บางส่วนออก

• สำหรับปัญหาซิลิโคนลอยที่เกิดจากการกระแทก บิดจับ ของคนไข้ สามารถแก้ไขได้ หลังเสริมจมูกไม่ควรจับ บิดเล่น หรือพยายามหลีกเลี่ยงการกระแทกที่รุนแรงในช่วง 3-6 เดือนแรกหลังการผ่าตัด เพื่อลดโอกาสการเกิดปัญหาซิลิโคนลอยได้อีกด้วยค่ะ

ใส่ซิลิโคนจมูกแล้วถอดออกได้หรือไม่

สำหรับคนไข้ที่ทำการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้ว จมูกได้ทรงสวยเข้ารูป ไม่เกิดปัญหา ทะลุ อักเสบ ติดเชื้อ สามารถเสริมใหม่ได้เลยโดยไม่ต้องพักเนื้อ แต่หากคนไข้ที่อยากถอดซิลิโคนออก เพราะมีปัญหาจริง ๆ จำเป็นที่จะต้องพักเนื้อก่อน จึงจะสามารถเสริมใหม่ได้ เพื่อให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกมีความแข็งแรง ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน จึงจะสามารถเสริมใหม่ได้

ในกรณีที่คนไข้ทำจมูกมานานหลายปีแล้ว รู้สึกว่าอยากถอดซิลิโคนออก ไม่อยากใส่ซิลิโคนแล้วก็สามารถถอดซิลิโคนออกได้เช่นกันค่ะ

เสริมจมูกซิลิโคน อันตรายไหม

ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นในเรื่องของความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก ในส่วนของซิลิโคนเองก็ยังเลือกใช้ซิลิโคนที่ผลิตขึ้นมาสำหรับใช้ทางการแพทย์ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจเสริมจมูกทุกครั้ง ควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแพทย์ ข้อมูลซิลิโคน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงข้อมูลของสถานพยาบาลให้รอบครอบ อ้อ แนะนำว่าให้ดูรีวิวผู้ใช้บริการจริงให้เยอะ ๆ ด้วยนะคะ เพราะรูป หรือคลิปวิดีโอรีวิวเหล่านั้น เป็นตัวการันตีฝีมือของศัลยแพทย์อีกด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจของตัวคนไข้เองอีกด้วยค่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิกที่นี่