“ รูปทรงจมูก ” เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วงเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ใบหน้าไม่ว่าสาว ๆ หนุ่ม ๆ จะมีลักษณะโครงหน้าแบบไหน การเสริมจมูกก็ช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้ หากเลือกรูปทรงจมูกที่เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของตนเอง อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบัน กระแสการทำศัลยกรรมกำลังมาแรง สังเกตได้จากการที่คนส่วนใหญ่หันมาเพิ่มความมั่นใจโดยอาศัยมีดหมอมากขึ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยการันตี ว่าการเสริมจมูก หรือการศัลยกรรมต่าง ๆ นั้นไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์นั้นถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เน้นในเรื่องของผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ รวมไปถึงความปลอดภัยที่เหนือชั้น ส่งผลให้ธุรกิจความงามมีมากมายหลายรูปแบบให้เลือกนั่นเองค่ะ
นอกจากการเสริมจมูกจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นแล้ว นอกจากนี้ยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้แก่เจ้าของจมูกอีกด้วยนะคะ ตามหลักแล้วหลายคนเชื่อว่า หากปลายจมูกตัด ไม่พุ่ง แม้จะเป็นคนที่มีความสามารถหรือคนเก่งแค่ไหนก็ตาม หากไม่มีเวทีหรือโอกาสที่จะได้แสดงศักยภาพก็ไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควร ดังนั้นโอกาสถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการที่มีปลายจมูกพุ่งจึงมีความเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสดี ๆ ที่อาจเข้ามานั่นเองค่ะ
เสริมจมูกคืออะไร
จมูกนับว่าเป็นอวัยวะที่อยู่จุดกลางของใบหน้า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีรูปทรงจมูกที่เหมาะสมเข้ากับใบหน้า ดังนั้นการทำจมูกจึงนับว่าเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้หลายคนหันมาพึ่งมีดหมอกัน เนื่องจากได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เมื่อเลือกตัดสินใจทำกับศัลยแพทย์ผู้มากประบการณ์
ศัลยกรรมจมูกเป็นการผ่าตัดตกแต่ง เพื่อปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงจมูกให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้า ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยเน้นความปลอดภัยโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ ทั้งนี้เทคนิคให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับลักษณะจมูกเดิมของคนไข้ โดยมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 แบบค่ะ นั่นก็คือ การเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิด (Open) และการเสริมจมูกด้วยเทคนิคปิด (Close) ซึ่งทั้งสองเทคนิคนี้ก็จะมีข้อดี – ข้อควรระวังต่างกันออกไปค่ะ
ลักษณะของรูปทรงจมูก ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจศัลยกรรม
ก่อนเลือกตัดสินใจทำจมูก หลายคนอาจมีรูปทรงจมูกที่ต้องการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามควรให้ศัลยแพทย์ช่วยประเมินรูปทรงจมูก หรือแนะนำทรงจมูกที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับลักษณะโครงหน้าของคนไข้นั่นเองค่ะ สำหรับในหัวข้อนี้จะพาไปรู้จักทรงจมูกต่าง ๆ ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
ทรงสโลปปลายพุ่ง
จมูกทรงนี้ นับว่าเป็นทรงที่มีความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากมีความโด่งรับเข้าใบหน้าเป็นอย่างดี แถมยังเน้นช่วงสันจมูกให้ดูชัดขึ้น และช่วงปลายให้ดูพุ่งสวย ทำให้ไม่ว่าจะมองหน้าตรงหรือด้านข้าง ใบหน้าก็ดูมีมิติทุกมุมมอง แถมใบหน้ายังดูสวยหวานละมุมขึ้นอีกด้วย ต้องบอกก่อนเลยว่าทรงนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ในระดับสูงสุดเลยทีเดียวค่ะ
ทรงจมูกสโลปปลายพุ่งเหมาะกับใคร
อย่างไรก็ตามจมูกทรงสโลปปลายพุ่งนี้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาดั้งจมูกไม่โด่งมาก สันจมูกเตี้ยหรือไม่มีดั้งเลย รวมไปถึงคนที่มีเนื้อบริเวณจมูกน้อยอีกด้วยค่ะ หากเลือกตัดสินใจเสริมจมูกด้วยทรงนี้แล้วจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้อย่างดีเลยค่ะ
จมูกทรงหยดน้ำ
จมูกทรงหยดน้ำ เป็นทรงที่เพิ่มความยาวให้กับจมูก เป็นความยาวที่รับเข้ากับสัดส่วนของใบหน้า ลักษณะเด่นของจมูกทรงหยดน้ำก็คือ ถ้าสังเกตบริเวณปลายจมูกจะพบว่าทรงจมูกจะทิ้งปลายให้ดูเป็นหยดน้ำเล็กน้อยเพื่อความเป็นธรรมชาติ
จมูกทรงหยดน้ำเหมาะกับใคร
อย่างไรก็ตามคนที่เหมาะกับจมูกทรงนี้ก็ต้องเป็นคนที่มีจมูกใหญ่ ฐานจมูกกว้างแบบทรงชมพู่ และต้องมีเนื้อบริเวณปลายจมูกค่อนข้างมาก เพื่อลดโอกาสการเกิดซิลิโคนทะลุในอนาคตได้ค่ะ
จมูกทรงปลายเชิด
ทรงจมูกปลายเชิด เป็นทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากทรงนี้จะเน้นยกปลายจมูกให้สูงขึ้นช่วยปรับให้ใบหน้าดูคมมากยิ่งขึ้น
จมูกทรงปลายเชิดเหมาะกับใคร
อย่างไรก็ตามจมูกทรงนี้เหมาะสำหรับคนที่มีสันจมูกอยู่บ้างแล้ว แต่จมูกงุ้ม ทำให้ใบหน้าดูดุหรือปลายจมูกบาน โดยศัลยแพทย์จะเน้นตกแต่งช่วยปลายจมูกให้เชิดขึ้นตามความเหมาะสม ส่วนคนที่มีเนื้อบริเวณปลายจมูกน้อยไม่แนะนำให้ทำจมูกทรงนี้นะคะ เพราะอาจเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุได้ในอนาคตนั่นเองค่ะ
จมูกทรงปลายเรียว
เป็นเทคนิคการทำจมูกที่ช่วยเพิ่มความเรียวให้ปลายจมูก โดยทรงจมูกปลายเรียวนี้จะใช้เทคนิคการตัดปีกจมูกร่วมกับการเสริมจมูกเพื่อเพิ่มความโด่งและลดขนาดปลายจมูกให้เล็กเรียวลงอีกด้วยนั่นเองค่ะ
จมูกทรงปลายเรียวเหมาะกับใคร
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า จมูกทรงปลายเรียวนี้ จะเหมาะกับคนที่มีปีกจมูกกว้าง บาน ปีกจมูกใหญ่ รวมไปถึงคนที่มีจมูกรูปทรงชมพู่ แต่ต้องการให้จมูกดูเล็กเรียวลงนั่นเองค่ะ
จมูกทรงโด่งเป็นสันชัด แบบสายฝอ
เป็นทรงจมูกที่มีความโด่ง คม ของสันจมูก ตั้งแต่โคนจรดปลายเลยค่ะ ลักษณะปลายจมูกจะชิดขึ้นเพื่อเพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้แก่ใบหน้า แลดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ชวนมองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะหน้าตรงหรือด้านข้างจะเห็นสันจมูกได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ
จมูกทรงโด่งเป็นสันชัด แบบสายฝอ เหมาะกับใคร
ต้องบอกก่อนเลยว่าจมูกทรงโด่งคมแบบสายฝอนั้นเหมาะกับสาว ๆ ที่มีพื้นฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความสูงของสันจมูก เพิ่มความคม ให้ดูเป็นสายฝอ สาว ๆ ที่มีบุคลิกมั่นใจในตัวเองสูงมักนิยมทำจมูกทรงนี้กัน อย่างไรก็ตามจมูกแบบสายฝอนี้จะไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อบริเวณจมูกน้อยนะคะ เพราะจะเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุได้ในอนาคตนั่นเองค่ะ
จมูกทรงบาร์บี้
จมูกทรงบาร์บี้จะเป็นการเสริมให้ช่วงสันจมูกสูงเล็กน้อยทำมุมกับหน้าผาก 120-140 องศา ช่วงหว่างคิ้วจะมีความโค้งมน ส่วนของปลายจมูกจะมีความเชิดขึ้นโดยใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมด้วย
จมูกทรงบาร์บี้เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่ต้องการจมูกที่โด่งแต่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่ ช่วยเพิ่มให้ใบหน้าดูเด็กและดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ลักษณะของรูปทรงจมูกเดิมที่เสริมจมูกทรงบาร์บี้แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่สวยหวานก็คือ คนที่รูปทรงจมูกปลายงุ้ม จมูกบาน จมูกกว้างนั่นเองค่ะ
ทรงจมูกผู้ชาย คืออะไร
การศัลยกรรมจมูกในปัจจุบันไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ เท่านั้นนะคะ สำหรับหนุ่ม ๆ แล้วการทำจมูกนั้นก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะเพศไหน ๆ ต่างก็ล้วนอยากจะดูดีในแบบฉบับของตัวเองกันทั้งนั้น เพราะหากเรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นก็นับว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ อย่างไรก็ตามหากจะพูดถึงลักษณะโครงสร้างใบหน้าของผู้ชายกับผู้หญิง ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่เหมือนกันอย่างแน่นอนเพราะ ผู้ชายนั้นจะมีกระดูกและจมูกที่ใหญ่กว่า สันจมูก ฮัมพ์ ก็มีขนาดที่แตกต่างกัน ดังนั้นเทคนิค รูปทรงจมูกก็อาจมีความแตกต่างกันไป ในหัวข้อนี้จะพามาดูว่า สำหรับผู้ชายแล้วควรเป็นจมูกรูปทรงแบบไหนดี ที่จะรับเข้ากับใบหน้า ไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ
จมูกทรงธรรมชาติ
เป็นทรงพื้นฐาน เน้นความเป็นธรรมชาติ โดยช่วงสันจมูกต้องตกแต่งให้ดูสูงตั้งแต่ช่วงคิ้วลงมาเพื่อให้ใบหน้าดูคมมากยิ่งขึ้นโดยที่ปลายจมูกไม่ต้องเชิดขึ้นหรือสโลปเหมือนผู้หญิงนั่นเองค่ะ
เสริมจมูกทรงตรง
เป็นทรงจมูกที่เหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของผู้ชาย เนื่องจากฐานจมูกเดิมของผู้ชายส่วนใหญ่ แกนจมูกจะต่อนข้างตรงอยู่แล้ว ดังนั้นการศัลยกรรมจมูกทรงตรงจะเป็นการเพิ่มความโด่งโดดเด่นให้ดูมีสันขึ้นมา ใบหน้ามีมิติมากขึ้นนั่นเองค่ะ
เสริมจมูกทรงปลายพุ่ง
เหมาะสำหรับผู้ชายที่มาปลายจมูกค่อนข้างเยอะ การเสริมจมูกปลายพุ่ง ช่วยปรับรูปทรงจมูกด้านข้างให้ดูเล็กลง และช่วยลดความใหญ่ของปลายจมูกอีกด้วยค่ะ
เสริมจมูกทรงงุ้ม
ต้องบอกก่อนเลยว่าสำหรับหนุ่ม ๆ แล้วจมูกทรงงุ้มนี้เป็นทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยการเสริมจมูกที่บริเวณปลายไม่พุ่งมากแต่เน้นให้ปลายนั้นงุ้ม ทรงนี้เหมาะกับคนที่ปลายจมูกไม่ใหญ่มาก เพราะผลลัพธ์หลังทำนั้นออกมาดูโดดเด่นเลยก็ว่าได้
เทคนิคการเลือกซิลิโคนให้เหมาะกับรูปทรงจมูก
การเลือกใช้ซิลิโคนในการทำศัลยกรรมเสริมจมูกนั้น ศัลยแพทย์จะพิจารณาจากโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสม แถมยังช่วยลดโอกาสการทะลุบริเวณปลายจมูกด้วยนะคะ เดี๋ยวเราไปดูกันนะคะว่า จมูกแต่ละรูปทรงนั้นควรเลือกใช้ซิลิโคนแบบใด ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
- สำหรับคนที่มีเนื้อสันจมูกมาก ควรเลือกใช้ซิลิโคนที่มีความแข็งระดับกลางไม่ต้องนิ่มมาก เนื่องจากมีเนื้อจมูกที่หนาอยู่แล้ว
- สำหรับคนที่มีเนื้อสันจมูกไม่มากไม่น้อยเกินไป ควรเลือกใช้ซิลิโคนแบบนิ่มหรือซิลิโคนเกาหลี เพราะซิลิโคนชนิดนี้สามารถเหลาได้รูปทรงสวยงาม ผลลัพธ์ทีไ่ด้จะดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
- สำหรับคนที่มีเนื้อสันจมูกน้อย หรือเนื้อสันจมูกบางมาก ควรเลือกใช้ซิลิโคนที่มีความนุ่มพิเศษ และเลือกตัดสินใจทำศัลยกรรมกับศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือใช้วิธีการรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังใบหูได้ด้วย เพื่อป้องกันการทะลุของแท่งซิลิโคนนั่นเองค่ะ
เทคนิคการเลือกวัสดุสำหรับเสริมจมูก
การศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อปรับรูปทรงจมูกนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาในยุคปัจจุบัน โดยวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการทำศัลยกรรมนั้นมีมากมายหลากหลายแบบนะคะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิค และการวิเคราะห์ของแพทย์ด้วยนะคะ ว่าเหมาะจะใช้วัสดุอะไรในการทำจมูก ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็มีลักษณะ ข้อดีข้อด้อยที่ต่างกันไป สำหรับในหัวข้อนี้จะพาไปดูกันนะคะว่า วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกนั้นมีอะไรบ้าง
- ซิลิโคน เป็นวัสดุยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ซิลิโคนแบ่งออกเป็นสองประเภทค่ะ ก็คือแบบธรรมดา ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกหนา และอีกแบบก็คือซิลิโคนแบบพิเศษ เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยนั่นเองค่ะ
- กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นการนำกระดูกซี่โครงของตัวผู้เข้ารับบริการเองมาเสิรมเป็นดั้งจมูก ซึ่งข้อดีก็คือสามารถเข้ากับร่างกายของคนไข้ 100%
- เนื้อเยื่อเทียม หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าเนื้อเยื่อเทียมนั้นทำมาจากอะไร ต้องบอกก่อนเลยว่าเนื้อเยื่อเทียมนี้เป็นวัสดุที่สังเคราะห์มาจากคอลลาเจน เหมาะสำหรับคนที่เนื้อจมูกบางลงจากการเสริมจมูกแบบซิลิโคน หรือ คนที่ทำจมูกมาแล้วเกิดการทะลุบริเวณปลายจมูก รวมไปถึงคนที่ต้องการให้รูปทรงจมูกดูยาวขึ้นนั่นเอง
- กระดูกอ่อนหลังหู เป็นการนำกระดูกอ่อนหลังหูของคนไข้เองมารองบริเวณปลายจมูกเพื่อลดโอกาสทะลุของซิลิโคน แถมยังช่วยให้ปลายจมูกดูพุ่งอย่างเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ
- เนื้อเยื่อก้นกบ ใช้เนื้อเยื่อก้นกบของตัวคนไข้เองเสริมเข้าไป เพื่อเพิ่มความโด่ง พุ่งสวยอย่างมีมิตินั่นเองค่ะ
เทคนิคการเลือกสถานพยาบาลสำหรับทำจมูก
การเลือกสถานพยาบาลนั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการประกอบการตัดสินเลือกทำศัลยกรรมไม่แพ้การเลือกศัลยแพทย์เลยค่ะ เนื่องจากหากเราศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจได้มากพอ จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ หรือปัญหาที่อาจตามมาหลังเข้ารับบริการได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเลือกสถานพยาบาลดี ศัลยแพทย์ดี มีชัยไปกว่าครึ่งเลยทีเดียวค่ะ เดี๋ยวในหัวข้อนี้จะพาไปดูกันนะคะว่า เทคนิคการเลือกสถานพยาบาลที่ตอบโจทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามความต้องการนั้นมีอะไรบ้างไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
- ความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล
โรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับมาตรฐาน มีความพร้อมของทีมแพทย์ เครื่องมือและอุปกรณ์ รวมถึงห้องผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐานค่ะ
- ความชำนาญของแพทย์
อย่างแรกที่ต้องพิจารณาเลยคือ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผลงานของแพทย์ ซึ่งสามารถดูได้จากรีวิวของผู้เข้ารับบริการจริง, ประสบการณ์ของแพทย์, ความน่าเชื่อถือ, ใบประกอบวิชาชีพ และการให้คำปรึกษาของแพทย์ ซึ่งข้อดีของการปรึกษาแพทย์โดยตรง ทำให้เรารู้วิธีการรักษา ความน่าเชื่อถือของแพทย์ แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถอธิบาย ให้คำแนะนำได้อย่างละเอียด และถูกต้องค่ะ
- ห้องผ่าตัด เครื่องมือที่ได้รับมาตรฐาน
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูก ของเรามีความปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายระหว่างผ่าตัด จำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับมาตารฐาของโรงพยาบาลให้ดี รวมไปถึงเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อด้วยนะคะ
- ราคาและโปรโมชั่นต่างๆ
การเลือกเสริมจมูก กับคลินิกไปเพราะราคาถูกนั้น อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ หรือแย่กว่าที่คาดหวังไว้ เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมามากมาย ดังนั้นก่อนเราจะตัดสินใจว่าจะเสริมจมูกที่ไหนดี ควรสอบถามข้อมูล ราคา โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน รวมไปถึงตรวจเช็ครีวิวจากคนไข้จริงให้ดี เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงฝีมือแพทย์ และผลลัพธ์ที่เราควรได้รับอีกด้วยค่ะ
ทำไมต้องทำจมูกที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ
หลายคนที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมจมูก ต่างก็ล้วนแล้วแต่อยากได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในครั้งแรก เพื่อไม่ต้องมีการแก้ไขใหม่ หรือทำจมูกใหม่รอบที่สอง จะดีกว่าไหมหากเลือกตัดสินใจทำศัลยกรรมกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการออกแบบรูปทรงจมูกโดยตรง เพื่อให้ได้จมูกที่เหมาะสมกับใบหน้า ดังนั้นในส่วนของการเลือกสถานพยาบาลสำหรับทำศัลยกรรมนั้นก็สำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ
โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเป็นชั้นนำที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ได้รับมาตรฐาน พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อ นำทีมโดยแพทย์เฉพาะทางและให้คำปรึกษาปัญหาแบบครบวงจร การันตีฝีมือด้วยเคสรีวิวจากลูกค้าจริงมากมาย คนไข้สามารถมั่นใจเลยว่าจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรเตรียมตัวอย่างไร
อย่างที่หลายคนเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่า การศัลยกรรมผ่าตัดทุกประเภทนั้นมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก หรือการผ่าตัดขนาดใหญ่ อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาภายหลังก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้นก่อนเข้ารับการผ่าตัดต้องเตรียมตัวยังไง ในหัวข้อนี้จะพาไปไขข้อสงสัยกันนะคะ ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
- อันดับแรกเลยคนไข้ต้องแจ้งประวัติโรคประจำตัว การแพ้ยา แพ้อาหาร ให้แพทย์ทราบโดยละเอียด หากมียาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยค่ะ
- งดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วัน หากจำเป็นต้องวางยาสลบในการผ่าตัดควรงดรับประทานอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด 8 ชั่วโมงค่ะ
- ไม่สวมเครื่องประดับต่าง ๆ ขณะเข้ารับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น สร้อย แหวน นาฬิกา ต่างหู รวมไปถึงงดทำเล็บด้วยนะคะ คนไข้ต้องเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดใส่ง่าย อาจจะเป็นเสื้อยืดคอกว้าง หรือ เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดการเสียดสี สัมผัสแผลหลังเข้ารับการผ่าตัดนั่นเองค่ะ
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วัน
หลังจากที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนคงเข้าใจขั้นตอน ของการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดกันดีแล้วใช่ไหมคะ ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าการเตรียมตัวนั้นไม่ยากเลย แถมยังมีประโยชน์อีกด้วยนะคะ
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะหากคนไข้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังเข้ารับการผ่าตัด รวมไปถึงช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้นลงอีกด้วยค่ะ ในหัวข้อนี้จะพาไปดูกันนะคะว่าการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
- ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังจากเข้ารับการผ่าตัด แนะนำให้คนไข้ประคบเย็นบริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล แถมอาการบวมหลังผ่าตัดก็ยุบลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกันค่ะ
- ในส่วนของการนอน แนะนำให้นอนหน้าตรง หนุนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม และป้องกันการเบี้ยวเอียงของซิลิโคนที่เสริมบริเวณดั้งนั่นเองค่ะ
- เรื่องของการทำความสะอาดแผล แนะนำว่าให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือสำหรับล้างแผล เช็ดเบาๆบริเวณปากแผล ควรเช็ดคราบเลือด คราบน้ำเหลืองออกให้สะอาด จะช่วยลดการติดเชื้อต่าง ๆ แถมยังช่วยให้แผลสมานตัวเร็วขึ้นอีกด้วยนะ อ้อ ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น เลยนะคะ
- หากจะเอ่ยถึงเรื่องอาหารที่งดทาน ก็คงหนีไม่พ้นอาหารแสลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล อาหารรสจัด อาหารหมักดอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิดด้วยนะคะ อ้อ งดสูบบุหรี่ก่อนนะคะช่วงนี้ เพราะทั้งหมดนี้จะทำให้แผลเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และสมานตัวช้าอีกด้วยค่ะ
- หลังจากที่เสริมจมูกไปแล้วควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งด้วยนะคะ และอย่าลืมเข้ามาพบแพทย์ตามใบนัดด้วยนะ หากพบว่าแผลผ่าตัดมีความผิดปกติ ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการรักษาอาการดังกล่าวนะคะ
อ่านถึงจุดนี้แล้วจะพบว่าการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนั้นไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หากเราเลือกศัลยกรรมเพื่อเพิ่มความสวยให้แก่ใบหน้าแล้วก็ต้องยอมรับโอกาสเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจตามมาในภายหลังด้วย ดังนั้นหากคนไข้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้วละก็ ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยค่ะ
ภาวะแทรกซ้อนหลังเข้ารับการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนั้นสำคัญ เพราะหากคนไข้ดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ, การเบี้ยวเอียงของจมูก รวมไปถึงสาเหตุของการเกิดผิวหนังบางบริเวณปลายจมูกจนเกิดการทะลุของซิลิโคนนั่นเองค่ะ สำหรับในหัวข้อนี้จะพาไปดูกันนะคะว่า ภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
การติดเชื้อ
ซึ่งการติดเชื้อหลังจากที่เสริมจมูกไปแล้วนั้นค่อนข้างอันตรายนะคะ หลัก ๆ แล้วการติดเชื้อจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะนะคะ มีอะไรบ้างไปดูพร้อมกันเลย
- ระยะแรกมักจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ค่ะ
มีสาเหตุมาจากคนไข้ทำความสะอาดแผลได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้บริเวณแผลมีคราบเลือด หรือมีเลือดคั่งในโพรงจมูก หรืออีกกรณีก็คือคนไข้มีเชื้อโรคในโพรงจมูกอยู่แล้ว ทั้งนี้อาการติดเชื้อในระยะแรกจะสังเกตได้จากการรู้สึก ปวด, บวม, แดง และร้อนบริเวณแผล หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษาโดยการถอดซิลิโคนออกและทำแผลให้สะอาดนะคะ
- ระยะที่สอง
ระยะนี้จะเกิดขึ้นหลังจากสองสัปดาห์ไปจนถึงหนึ่งเดือนค่ะ ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าอาการโดยรวมนั้นจะคล้ายๆกับการติดเชื้อระยะแรกเลย แต่จะมีอาการบวม, เจ็บปวด, แดง และมีหนองไหลออกมาจากโพรงจมูกค่ะ หากพบว่าตัวเองมีอาการดังนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วนเลยค่ะ
- ระยะที่สาม ระยะสุดท้าย
จะพบหลังจากหนึ่งเดือนไปจนถึงปีเลยนะคะ คนไข้ที่ติดเชื้อจะมีอาการบวม, แดง หรือมีน้ำำหลออกจากโพรงจมูกค่ะ จะเป็น ๆ หาย ๆ นะคะ ทั้งนี้ลักษณะดังกล่าวจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดนะคะ แต่จะเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อในโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็น สิว, ไซนัสอักเสบ และผิวหนังติดเชื้อค่ะ ซึ่งระยะนี้พบได้น้อยค่ะ
การเบี้ยวเอียงหลังสริมจมูก
ภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวนี้พบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ในช่วยสองสัปดาห์แรกอาจเกิดจากการบวมของเนื้อเยื่อ และยังไม่เกิดการยึดเกาะวัสดุที่ใช้เสริมจมูก ส่งผลให้ตัวซิลิโคนดังกล่าวนั้นขยับหรือเกิดการเบี้ยวเอียงได้ แต่หากเกินช่วงสองสัปดาห์ไปแล้ว พบว่าบริเวณสันจมูกยังเบี้ยว เอียงอยู่ ต้องผ่าตัดแก้ไขใหม่อีกรอบค่ะ เนื่องจากหลังาองสัปดาห์ไปแล้ว ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อมายึดเกาะกับซิลิโคนส่งผลให้ไม่สามารถขยับ หรือบิดได้แล้วนั่นเองค่ะ
ผิวหนังบาง
สำหรับเรื่องของผิวหนังบริเวณจมูก หลายคนอาจประสบปัญหานี้ หลังจากที่เสริมจมูกมาแล้ว โดยสาเหตุหลักมาจากการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนค่ะ เพราะเป็นการนำเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ผิวหนังบริเวณปลายจมูกอาจบางได้ หรือทะลุได้ เนื่องจากคนไข้เลือกรูปทรงจมูกไม่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกเดิม อย่างเช่นคนที่มีเนื้อจมูกน้อย แต่เลือกรูปทรงจมูกที่โด่งมาก หรือการที่ศัลยแพทย์พยายามเสริมจมูกให้ดูสูงมาก โดยที่ไม่มีการใช้เนื้อเยื่อบริเวณอื่นมารองปลายจมูก จึงเกิดการเสียดสีทำให้บริเวณปลายจมูกนั้นบาง และมีโอกาสทะลุได้ค่ะ
ผิวหนังทะลุ
ปัญหาการทะลุของผิวหนังบริเวณปลายจมูกนับว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยหลักๆแล้ว ภาวะดังกล่าวมักจะมาพร้อมกับการอักเสบติดเชื้อเป็นหนอง ส่งผลให้ผิวหนังตาย และแท่งซิลิโคนทะลุออกมา แถมภาวะแทรกซ้อนนี้ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าไปตลอดชีวิตเลยนะคะ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงนี้ คนไข้สามารถสังเกตอาการของตัวเองได้ง่าย ๆ เลยค่ะ หากพบว่ามีอาการอักเสบ ปวด บวม แดง แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันทีเลยนะคะ โดยการรักษาที่ว่านี้ แพทย์จำเป็นจะต้องถอดซิลิโคนที่ใช้เสริมออกก่อนนั่นเองค่ะ เพราะหากฝืนใส่ต่อไปอาจเกิดการทะลุ และปัญหาอื่นๆ ตามมาได้นั่นเองค่ะ